...พิธีกรรมการมัดมือ...
หลังจาการดำนาต้นกล้าเติบโตมาชั่วระยะเวลาหนึ่งและมีพิธีเลี้ยงผีนาช่วงต้นเดือนสิงหาคม เพื่อให้ช่วยปกปักรักษาต้นกล้าให้เติบโตเป็นเมล็ดข้าวที่อวบอ้วนสมบูรณ์ ก็ถึงพิธีกรรมการมัดมือเพื่อเป็นการบูชาเทพยดาฟ้าดิน ให้ช่วยลงมาปกปักรักษาพืชพันธุ์ธัญญาหาร ข้าวกล้าในนา ให้ปราศจากอันตรายต่างๆ นอกจากนี้ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ทุกคน ทุกครอบครัวเหน็บเหนื่อยจากหน้าที่การงานในทุ่งนา และในช่วงนี้ก็พอมีเวลาว่างจะได้มาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันและกันในเรื่องการทำมาหากิน ความทุกข์ความสุข ของคนที่เคยเป็นสมาชิกในครัวเรือนเดียวกันแต่ต้องมาแยกย้ายกันอยู่ในต่างหมู่บ้าน และเป็นการดำรงไว้ซึ่งความรักสามัคคีของสถาบันครอบครัว เป็นคุณธรรมซึ่งนับวันจะหาได้ยากยิ่งในปัจจุบันนอกจากนี้เป็นการสื่อให้บุคคลภายนอกที่เข้ามาร่วมพิธีให้รู้ว่า ปกาเกอะญอเป็นชนเผ่าที่มีประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามเป็นของตนเองสืบต่อมาช้านาน
สิ่งจำเป็นที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรม
1. เหล้า
เหล้าที่จะใช้ในการประกอบพิธีนั้นต้องเป็นเหล้าที่ต้มจากข้าวเชื้อ...น้ำที่ใช้ในการต้มเหล้าจะต้องเป็นน้ำส่วนหนึ่งที่นำมาจากบ่อน้ำพิธีกรรมของหมู่บ้านเท่านั้น และในช่วงที่มีการหมักเหล้าต้มเหล้า ผู้ที่เป็นฮี่โข่ และภรรยา ห้ามการใช้จ่ายเงินทองทุกชนิด และในช่วงนี้ทุกบ้านจะงดการขาย วัว ควาย พืชพันธุ์ทุกอย่าง การต้มเหล้าและกิจกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้องจะเริ่มต้นที่บ้านของฮี่โข่ ซึ่งเป็นผู้นำทางพิธีกรรมของชนเผ่าเท่านั้น เช้ามืดวันรุ่งขึ้นที่บ้านฮี่โข่ จะเริ่มประกอบพิธีก่อนบ้านอื่น นำข้าวของ เครื่องใช้ต่างๆซึ่งได้เตรียมใส่ตะกร้า( แพ๊ะ ) ไปตั้งไว้บริเวณหัวบันไดบ้าน หัวหน้าบ้านหรือฮี่โข่จะนำ “ฟาด” หรือไม้ที่ใช้คนข้าว (หน่อ โด คว๊ะ) มาเคาะตรงหัวบันไดพร้อมกับกล่าวคำอธิฐานเรียกขวัญ เป็นอันเสร็จการประกอบพิธีที่บ้านของฮีโข่ต่อไปบ้านอื่นๆเมื่อลูกหลานมาพร้อมเพรียงกันแล้วก็เริ่มพิธีมัดมือได้ทุกบ้าน พิธีมัดมือนอกจากเป็นการปฏิบัติตามประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามแล้ว ยังเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมตามวิถีชีวิต เป็นการแสดงออกถึงคุณธรรมจริยธรรมที่งดงาม มีความลุ่มลึกด้านจิตวิญญาณ โยงสายใยสู่ ความรักความผูกพันธ์สามัคคีของชนเผ่า ในท่ามกลางกระแสความเจริญทางวัตถุ วิถีชีวิตอันงดงามของชนเผ่าปกาเกอญอเช่นนี้ จะสามารถดำรงอยู่อีกนานสักเท่าไร เป็นสิ่งที่คนปกาเกอญอเองต้องช่วยกันค้นหาคำตอบ
2. ขนม
ขนมที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมการมัดมือมี 2 ชนิด คือขนม เม ตอ กับ ขนมเม โต พิ ส่วนประกอบของขนม เม ตอ มีข้าวเหนียวผสม เมล็ด ถั่ว ที่ ปกาเกอะญอ เรียกว่า เซ เบ คลี ห่อด้วยใบ แคะ ละ ซึ่งมีลักษณะยาวรี ต้นคล้ายต้นอ้อย และนำขนมไปต้มให้สุก ส่วนขนมเม โต พิ จะนำข้าเหนียวที่แช่ไว้นำมาผสมกับเมล็ดงาและตำให้ละเอียดนำใส่ในถาดเป็นแผ่นบาง และมีการเตรียม เนื้อหมู่ เป็ด ไก่ เพื่อเป็นการเลี้ยงฉลอง กับญาติบ้านไกลและแขกผู้มาเยือนนอกจากนี้ยังมี เสื้อผ้า ผ้าห่ม ผ้าโพกหัวและเครื่องแต่งกาย เมื่อเตรียมอุปกรต่างๆเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นำจะแบ่งเป็นส่วนๆที่จะไปประกอบพิธีรุ่งเช้าก็จะนำไปเก็บไว้ในที่อันควร และส่วนที่เหลือก็นำไปรับประทานหรือเลี้ยงแขกที่มาได้ ในการเตรียมข้าวของเพื่อถวายแก่เทพยาดาฟ้าดิน นำข้าวของเหล่านั้นใส่ในตะกร้ารวมทั้งเหล้า 1ขวด เพื่อเตรียมไว้เพื่อถวายในเช้ามืดของอีกวัน พลบค่ำหลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้วทุกคนจะไปพร้อมกันที่บ้านของฮี่โข่ เพื่อร่วมพิธีดื่มหัวเหล้า เพื่อเป็นการบูชาเทพยดาฟ้าดินอีกครั้งหนึ่ง
|
|
เช้ามืดวันรุ่งขึ้นที่บ้านฮี่โข่ จะเริ่มประกอบพิธีก่ อนบ้านอื่น นำข้าวของ เครื่องใช้ต่างๆซึ่งได้เตรียมใส่ตะกร้า( แพ๊ะ ) ไปตั้งไว้บริเวณหัวบันไดบ้าน หัวหน้าบ้านหรือฮี่โข่จะนำ “ฟาด” หรือไม้ที่ใช้คนข้าว (หน่อ โด คว๊ะ) มาเคาะตรงหัวบันไดพร้อมกับกล่าวคำอธิฐานเรียกขวัญ เป็นอันเสร็จการประกอบพิธีที่บ้านของฮีโข่ต่อไปบ้านอื่นๆ เมื่อลูกหลานมาพร้อมเพรียงกันแล้วก็เริ่มพิธีมัดมือได้ทุกบ้าน พิธีมัดมือนอกจากเป็นการปฏิบัติตามประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามแล้ว ยังเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมตามวิถีชีวิต เป็นการแสดงออกถึงคุณธรรมจริยธรรมที่งดงาม มีความลุ่มลึกด้านจิตวิญญาณ โยงสายใยสู่ ความรักความผูกพันธ์สามัคคีของชนเผ่า ในท่ามกลางกระแสความเจริญทางวัตถุ วิถีชีวิตอันงดงามของชนเผ่าปกาเกอญอเช่นนี้ จะสามารถดำรงอยู่อีกนานสักเท่าไร เป็นสิ่งที่คนปกาเกอญอเองต้องช่วยกันค้นหาคำตอบ
|